ทำไมต้องวัดพลังงานไฟฟ้า?
  การวัดพลังงานไฟฟ้าในแต่ละส่วนของระบบ (ไฟฟ้า 1 เฟส 3 เฟส และ DC) มีความจำเป็นด้วยเหตุผลหลายประการที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสร้างผลกำไรของผู้ประกอบการ จากการประหยัด การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน การบำรุงรักษา การผนวกกับระบบ ERP และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
1. การเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
  การวัดค่าพลังงานที่แม่นยำช่วยให้จัดการต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง การระบุพื้นที่ที่ใช้พลังงานมากและการริเริ่มการประหยัดพลังงาน เปิดปิดตรงเวลากับการใช้งานจะส่งผลโดยตรงต่อผลกำไร
2. การจัดการต้นทุนพลังงานและการประหยัด
  การวัดค่าพลังงานที่แม่นยำช่วยระบุจุดสูญเสียพลังงานและความไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่มาตรการประหยัดพลังงานตามเป้าหมายและการลดต้นทุน ซึ่งส่งผลดีต่อผลกำไร
3. บาลานซ์เฟสและประสิทธิภาพ
  การวัดพลังงานในแต่ละส่วนช่วยให้มั่นใจได้ถึงการกระจายโหลดในแต่ละเฟสที่สมดุล ลดการสูญเสียพลังงานให้น้อยที่สุด และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ซึ่งนำไปสู่การประหยัดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร
4. การจัดการด้านอุปสงค์
  ข้อมูลพลังงานเรียลทามช่วยให้โรงงานสามารถปรับการใช้พลังงานในช่วงพีคโหลด ซึ่งทำให้ลดต้นทุนด้านพลังงานและส่งผลบวกต่อกำไร
5. การเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษา
  การวัดพลังงานช่วยเชื่อมโยงการใช้พลังงานกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ความสัมพันธ์นี้ช่วยให้การกำหนดกลยุทธ์การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ลดเวลาหยุดทำงานและค่าบำรุงรักษา
6. การร่วมกับ ERP และการวางแผนทรัพยากร
  การรวมข้อมูลพลังงานเข้ากับระบบ ERP ช่วยให้สามารถวางแผนทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพนี้นำไปสู่การลดต้นทุนและเพิ่มการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งส่งผลต่อผลกำไรในเชิงบวก
7. การดูแลการประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง
  การติดตามผลข้อมูลพลังงานที่ได้มาให้ถึงจุดเริ่มของประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าบรรลุผลสำเร็จในการประหยัดพลังงาน ซึ่งนี่คือเหตุของกำไรที่เพิ่มขึ้น
8. ประสิทธิภาพของอุปกรณ์และการเพิ่มประสิทธิภาพ
  การวัดการใช้พลังงานช่วยระบุการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ลดการสูญเสียพลังงาน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และสนับสนุนเป้าหมายผลกำไรโดยรวม
9. การทำโปรไฟล์โหลดและการวางแผนการผลิต
  การทำโปรไฟล์ของอุปกรณ์โหลดแต่ละเครื่องหรือของแต่ละสายการผลิต โดยใช้การวัดพลังงานช่วยให้สามารถจัดตารางการผลิตที่เหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากความพร้อมของพลังงานและต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไร
10. ความยั่งยืน และคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  การแสดงให้เห็นถึงความพยายามด้านความยั่งยืนผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลดีต่อการปล่อยคาร์บอนที่ลดลงของผู้ประกอบการ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้สร้างภาพลักษณ์ชื่อเสียงของแบรนด์ ดึงดูดลูกค้าที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ลดการกีดกันทางการค้า และช่วยสร้างผลกำไรในระยะยาว