กระแสไฟ AC กับ DC
กระแสไฟ AC
  ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ AC (Alternating Current) คือ กระแสไฟฟ้าในวงจรที่ไม่ได้เคลื่อนเป็นเส้นตรง แต่จะมีการเคลื่อนที่สลับทางกลับไปกลับมาอย่างเป็นจังหวะ มองภาพง่าย ๆ ก็คือ ไฟฟ้าจะเคลื่อนที่ออกจาก ขั้วลบ และ ขั้วบวก สลับกันและทำให้เกิดคลื่นความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Sine Wave) ที่ส่งออกไปตามสายไฟ โดยคลื่นความถี่นั้น จะใช้หน่วยวัดเป็น เฮิร์ต (Heartz) หรือ 1 รอบต่อวินาที ยกตัวอย่างเช่น กรณีถ้าไฟฟ้ากระแสสลับเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30 เฮิร์ต ก็หมายถึงไฟฟ้านั้นจะถูกปล่อย 30 ครั้งจากแหล่งกำเนิดใน 1 วินาที และมีคลื่นความถี่ของไฟฟ้า 30 ลูก นั่นเอง
ประโยชน์ของการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ
1. ใช้ร่วมกับระบบแสงสว่างได้ดี
2. ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถผลิตได้ง่าย
3. มีความสามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกำลังไฟฟ้ามาก ๆ
4. ใช้งานกับเครื่องไฟฟ้าสำหรับเชื่อมวัสดุที่เป็นโลหะ
5. สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกชนิดในชีวิตประจำวัน
กระแสไฟ DC
  ไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC (Direct Current) คือ ไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลไปในทิศทางเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเส้นตรง รูปแบบการเคลื่อนที่ของไฟฟ้ากระแสตรง
  สามารถอ้างอิงได้ตาม 2 ทฤษฎี คือไฟฟ้าจะวิ่งจากประจุบวกของแบตเตอรี่ หรือ เครื่องให้กำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ผ่านเข้าไปยังอุปกรณ์และกลับไปยังขั้วลบ โดยอิงตามทฤษฎี Conventional Current
  การใช้งาน ข้อได้เปรียบของไฟฟ้ากระแสตรง คือการให้ค่าแรงดันไฟฟ้าที่คงที่และต่อเนื่อง มีหน่วยวัดเป็นจูลต่อคูลอมบ์ (โวลต์) ทำให้มันมีความจำเป็นต่อการใช้งานสำหรับวงจรอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นต้องการแรงดันไฟที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่สามารถรองรับไฟ AC ที่มีแรงดันสูงได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเสียหาย
  ดังนั้นอุปกรณ์อิเล็กอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากจึงต้องมี หม้อแปลง หรือ Power Adaptor เพื่อที่เวลาดึงไฟ AC ในบ้านมาใช้งาน ก็สามารถแปลงเป็น DC และมีค่าแรงดันคงที่ ตัวอย่างที่ชัดเจน ก็คือ โน้ตบุ๊ค หรือ โทรศัพท์มือถือ ที่มีแบตเตอรี่ในตัวเป็นต้น
  แหล่งพลังงานของกระแสไฟฟ้า DC นั้นส่วนมากจะมาจาก ถ่านไฟฉาย โซลาร์เซลล์ เซลล์เชื้อเพลิง หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่ติดตั้งหม้อแปลงให้เป็นกระแสตรง
ประโยชน์ของการใช้ไฟฟ้ากระแสตรง
1. ใช้ในการเดินไฟฟ้าเพื่อเคลือบโลหะต่าง ๆ
2. ใช้ในการทดลองหรือจิวัยทางเคมี
3. มีความสามารถในการตัดวัสดุที่เป็นโลหะและเชื่อมโลหะได้เป็นอย่างดี
4. ใช้สำหรับทำประจุไฟฟ้าเพื่อนำเข้าแบตเตอรี่เพื่อนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน
5. ใช้ในการต่อวงจรเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อให้ใช้งานได้
6. ใช้สำหรับเป็นไฟฟ้าสำหรับนักเดินทาง เช่น ไฟฉาย