พลังงาน

พลังงาน (Energy) หมายถึง ความสามารถในการทำงานหรือทำให้เกิดงาน ผลการทำงานของแรงนั้นทำให้วัตถุหรือสิ่งใด ๆ เคลื่อนที่ หรือเคลื่อนไหว
พลังงานนั้นสามารถจัดเก็บไว้ได้พลังงานไม่สามารถถูกทำลายได้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงจากรูปหนึ่งไปเป็นอีกรูปหนึ่งได้ เช่น พลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า เป็น พลังงานกล หรือ พลังงานความร้อน เป็นต้น
พลังงานสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวมนุษย์เรามาก โดยเราจำแนก พลังงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
พลังงานต้นกำเนิด (Primary Energy) หมายถึง แหล่งพลังงานที่เกิดขึ้น หรือมีอยู่แล้วตามธรรมชาติสามารถนำมา ใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ได้แก่ น้ำ แสงแดด ลม
เชื้อเพลิงตามธรรมชาติ เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานความร้อนใต้พิภพ แร่นิวเคลียร์ ไม้ฟืน แกลบ ชานอ้อย เป็นต้น

พลังงานแปรรูป (Secondary Energy) หมายถึง สภาวะของพลังงานซึ่งได้มาโดยพลังงานต้นกำเนิดดังกล่าวแล้วข้างต้นมาแปรรูป ปรับปรุง ปรุงแต่ง
ให้อยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ เช่น พลังงานไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ถ่านไม้ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว เป็นต้น

สามารถจำแนกพลังงานได้ดังนี้
1.พลังงานเคมี (Chemical Energy) เป็นพลังงานที่อยู่นสารเคมี หรือ วัตถุอัตรายซึ่งจะปล่อยออกมาเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมีเช่น การเผาที่ใช้ ฟืน , ถ่านไม้ , น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
2.พลังงานความร้อน (Heat Energy/Thermal Energy) เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของโมเลกุลของวัตถุต่าง ๆซึ่งพลังงานความร้อนต้องเกิดจากการกระตุ้น เช่น ใช้เตาแก๊สต้มน้ำ ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมาได้
3.พลังงานจลน์ (Kinetic Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ เช่น รถที่กำลังวิ่ง ลูกธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
4.พลังงานศักย์ (Potential Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุถูกวางอยู่ในตำแหน่ง ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วง หรือ แรงดึงดูดจากแม่เหล็ก เช่น ก้อนหินที่วางอยู่บนขอบที่สูง แล้วล่วงลงสู่พื้น
5.พลังงานไฟฟ้า (Electric Energy) เป็นพลังงานที่ใช้มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นพลังงานที่ สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปอื่นได้ง่าย เปลี่ยนเป็นพลังงานกล เช่น พัดลม มอเตอร์ เป็นต้น
6.พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Energy) เป็นลักษณะการแผ่รังสีของพลังงาน เช่น คลื่นวิทยุและคลื่นไมโครเวฟ ซึ่งเป็นคลื่นที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
1.พลังงานเคมี (Chemical Energy) เป็นพลังงานที่อยู่นสารเคมี หรือ วัตถุอัตรายซึ่งจะปล่อยออกมาเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมีเช่น การเผาที่ใช้ ฟืน , ถ่านไม้ , น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
2.พลังงานความร้อน (Heat Energy/Thermal Energy) เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของโมเลกุลของวัตถุต่าง ๆซึ่งพลังงานความร้อนต้องเกิดจากการกระตุ้น เช่น ใช้เตาแก๊สต้มน้ำ ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมาได้
3.พลังงานจลน์ (Kinetic Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ เช่น รถที่กำลังวิ่ง ลูกธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
4.พลังงานศักย์ (Potential Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุถูกวางอยู่ในตำแหน่ง ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วง หรือ แรงดึงดูดจากแม่เหล็ก เช่น ก้อนหินที่วางอยู่บนขอบที่สูง แล้วล่วงลงสู่พื้น
5.พลังงานไฟฟ้า (Electric Energy) เป็นพลังงานที่ใช้มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นพลังงานที่ สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปอื่นได้ง่าย เปลี่ยนเป็นพลังงานกล เช่น พัดลม มอเตอร์ เป็นต้น
6.พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Energy) เป็นลักษณะการแผ่รังสีของพลังงาน เช่น คลื่นวิทยุและคลื่นไมโครเวฟ ซึ่งเป็นคลื่นที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า